กินกาแฟอย่างไรให้มีประโยชน์
ในกาแฟมีทั้งประโยนช์และโทษ หากรับประทานมากเกินไปก็จะให้โทษต่อร่างกาย เพราะฉะนั้นองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้กำหนดปริมาณค่าของคาเฟอีนที่ไม่มีโทษต่อร่างกายหากดื่มไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือไม่ควรเกิน
3 แก้วนั้นเอง คาเฟอีนมีผลต่อร่างกายโดยตรง
หากดื่ม 50-200 มิลลิกรัมจะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว และสดชื่นกำลังดี แต่หากดื่มในปริมาณ
200-500 หรือเรียกว่าขนาดกลาง อาจทำให้ร่างกายเกิดความเครียด
ปวดหัว ใจสั่น กระวนกระวาย ไปจนถึงนอนไม่หลับได้ ยิ่งถ้าทานในปริมาณที่สูงขึ้นถึง 1000 มิลลิกรัมต่อวันขึ้นไป คาเฟอีนยิ่งจะกลายเป็นพิษให้โทษต่อร่างกายทันที จะทำให้ร่างกายเริ่มกระสับกระส่าย หัวใจเต้นเร็ว เคลื่อนใส้ เบื่ออาหาร และปัสสาวะบ่อยขึ้น
กาแฟมีประโยชน์ เพราะฉะนั้นถ้าอยากทานกาแฟให้เกิดประโยนช์ หรือแก้ง่วง แน่ะนำให้ทานกาแฟครั้งละน้อยๆเพื่อกระจายการดื่มออกไปในแต่ละครั้ง
หรือแก้วเล็กๆ แต่สามารถทานได้เรื่อยๆ ค่อยๆจิบไปทีละนิดเพราะกาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากดื่มไปแล้ว 15 นาที และการดื่มแบบนี้ก็จะช่วยให้ร่างกายของเราตื่นตัวได้ยาวนานกว่าการดื่มทีเดียวครั้งล่ะมากๆ แต่ข้อสำคัญให้ปริมาณของคาเฟอีนรวมกันแล้วไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวันจะดีที่สุด และผลเสียอีกอย่างสำหรับคอกาแฟที่ชอบทานกาแฟตอนท้องว่าง คาเฟอีนในกาแฟจะเร่งหลั่งกรดในกระเพราะออกมา ซึ่งจะทำให้กระเพราะของเราระคายเคืองอยู่บ่อยๆจนกลายเป็นโรคกระเพราะได้ในที่สุด
เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรทานกาแฟตอนท้องว่างกันนะค่ะ อย่างน้อยๆ ก็ควรจะมีขนมทานควบคู่กับกาแฟไปด้วยจะดีกว่า หรือค่อยๆจิบ หลังทานอาหารหลักจะดีที่สุด และที่สำคัญอีกอย่างการดื่มกาแฟในปริมาณมากๆ เพื่อหวังจะกระตุ้นให้ได้งานเย่อะๆ จนอดหลับอดนอน ยิ่งทำให้ร่างกายต่อต้าน สมองของเราก็จะยิ่งย่ำแย่ประสิทธิภาพในการรับรู้หมดลงได้ในที่สุด สำหรับคอกาแฟที่ทานกันอยู่เป็นประจำ แน่ะนำให้ทานอาหารที่มีแหล่งแคลเซียมมากๆ เพื่อไปทดแทนแคลเซียมที่สูญเสียไปกับการปัสสาวะที่มีจำนวนครั้งมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน หรือถ้าเป็นไปได้ควรใช้ นม แทนครีมเทียมจะดีกว่านะค่ะ และข้อสำคัญอีกอย่างในกระบวนการผลิตกาแฟจะมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้น เพราะฉนั้นเราควรทานผักผลไม้เพื่อกำจัดอนุมูลอิสระออกจากร่างกายที่มากับกาแฟ พร้อมทั้งดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปกับการปัสสาวะ